วันรุ่งขึ้น คุณหมอกับสามีก็เข้ามาดูบ้านตัวอย่าง ดูจากสีหน้าแล้ว คงพอใจเป็นยิ่งนัก ข้าน้อยก็ยิ้มแก้มปริ "หวังเฉา หม่าฮั่น เตรียมสัญญาาาาาาา"5555
ปล่อยให้ปรึกษากันอยู่นานสองนานก็ถึงเวลาเข้าห้องเย็น มีข้อแม้ว่า
1/ ผมจะต้องหาช่างวางท่อระบายน้ำใต้ดินและงานฐานรากให้ด้วย
2/ราคาสู้ใหวแค่ 4 ล้านบาทมากกว่านี้ไม่เอา
ผมบอกขอเวลาคิดดูก่อนและหาช่างก่อน เพราะงานระบบระบายน้ำและงานฐานรากผมทำไม่เป็นและไม่มีความรู้เลย ปรึกษาเพื่อนที่เป็นวิศวกร ก็แนะนำมาให้ ผมก็ให้ไปคุยกับทางคุณหมอเอง ผมนัดคุณหมอและผู้รับเหมาให้ไปพบกันที่หน้างาน ต่อรองราคาอะไรกันเสร็จสรรพ ผมก็ออกตัวเลยว่า คุยกันเองนะครับผมแค่แนะนำให้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยและไม่สามารถตรวจงานและช่วยดูแลได้เพราะไม่มีความรู้เลย ทุกฝ่ายรับทราบตามนี้
หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ คุณหมอก็นัดทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับผม ผมก็สอบถามคุณหมอว่าท่อระบายน้ำกับฐานรากจะเสร็จเมื่อไหร่ คุณหมอแจ้งว่าช่างแจ้งว่า 45 วันเสร็จ ผมก็บอกว่าให้เค้าทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาทำสัญญากับผมก็ได้ คุณสามีคุณหมอแย้งว่า ก็ของคุณมันเป็นการสร้างเป็นชิ้นส่วน คุณสามารถทำได้เลยแล้วพอเขาเสร็จคุณก็นำเข้าไปติดตั้งได้เลย สัญญาก็รวดไปเลยสามงวดพร้อมจ่ายจะได้ไม่ต้องรอกัน
ผมเลยทำสัญญาและบวกเวลาในการทำฐานรากเข้าไปด้วย รวมแล้ว 26 หลัง 110 วัน รับเงินตามสัญญามา 30%เริ่มสั่งโครงสร้าง ถัดมาอีกวันนึง สามีคุณหมอโทรมาตามให้ไปหน้างานด่วน ผมรีบขับรถไปหน้างาน "คุณเอาใครมาทำงานให้ผมเนี่ย วางท่อระบายน้ำแบบนี้น้ำย้อนหมด ไม่เอาระดับ วางท่อผิดด้านแบนี้น้ำซึมออกหมด ผมถามช่างว่าคุณเคยทำมั้ย ช่างบอกไม่เคยทำ ผมโทรหาผู้รับเหมา ผู้รับเหมาบอกว่าตอนผมไปดูที่คนของผมยังว่างแต่ตอนนี้ไม่ว่างเลยไปเอาคนงานที่อื่นมาทำ เดี๋ยวจะรีบไปดู ผมก็บ่นให้ แต่ก็คิดในใจมันเรื่องอะไรของกูมั้ยเนี่ย
ผุ้รับเหมามาแล้วก็ทะเลาะกันกับสามีคุณหมอ แล้วบอกว่าไม่ทำแล้ว สามีคุณหมอโทษผมที่แนะนำคนไม่ดีมาให้ ให้ผมช่วยหาใหม่ ผมไม่รับปาก แกโทรมาตามวันละสามรอบสุดท้ายต้องหาจากเพื่อนๆเพื่อนรับปากแต่ตอนนี้ติดงานต้องอีก 10 วันถึงจะไปทำให้ได้ สามีคุณหมอรับทราบ
ผมก็ทำงานของผมไปเรื่อยๆงานเกินเปอร์เซ็นงานไปมาก แต่เนื่องจากหน้างานจะต้องติดตั้งแล้วเสร็จจึงจะเบิกเงินขอเบิกคุณหมอเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเปอร์เซ็นงาน เอางัยดีช่างก็ไม่มีงานจะทำแล้ว เงินก็ไม่มีจะซื้อของแล้ว ค่าแรงเริ่มติดช่างแล้ว สุดท้ายหายืมเงินข้อแม้คือ 1/ร้อยละ 10 ต่อเดือน 2/ต้องยึดรถเป็นประกัน
ฝืนไม่ใหวก็ต้องยอมครับ รับเงินเขามา 630,000.-บาทแต่สัญญาเขียน700,000.-ก็ต้องยอมครับ เบี้ยล่างย่อมต้องถูกกดขี่อยู่แล้ว กว่าจะเข้าหน้างานได้ ก็ปาเข้าไปวันที่ 70 และที่สำคัญจะเข้าเทศกาลสงกรานต์พอดี
เข้าหน้างานได้วันที่ 9 เมษาอีกวันก็จะเริ่มเข้าเทศกาลสงกรานต์ ผมขนของเข้าหน้างานเริ่มประกอบและติดตั้ง คุณหมอเข้ามาดูหลังจากที่ผมติดตั้งไปแล้ว 9 หลัง(ใวมากครับ)ขอเบิกเงินคุณหมอๆให้มาเพิ่มอีก 10% บอกว่าไม่ต้องกลัว ติดตั้งเสร็จแล้วให้เบิกเลย พึ่งเข้าหน้างานได้ 2 วันเอง ผมชี้แจงว่าผมทำไปเกินเปอร์เซ็นงานมากเพราะเป็นชุดประกอบสำเร็จรูป คุณหมอบอก ก็มันยังกองอยู่ที่พื้นยังไม่ได้ประกอบก็คือยังไม่ได้ทำงานแหล่ะ ไม่ต้องห่วงเงินน่ะมีพร้อมไม่ได้กู้ธนาคาร วันรุ่งขึ้นคุณหมอส่งกระเบื้องปูพื้นมาให้ ตามเงื่อนไขว่ากระเบื้องปูพื้นกับผนังคุณหมอขอซื้อเอง กระเบื้องมาถึงช่างปูกระเบื้องบ่นอุป กระเบื้องเกรด Bหรือ C มันจะปูยากมาก แผ่นมันงอมุมจะกระดก สงกรานต์เทศกาลแห่งความสุข แต่ผมล่ะทุกข์ถนัด ช่างหายไปทีละคนสองคน วันสงกรานต์เหลือคนงานพม่า 2คู่ สามีคุณหมอโวยหนัก บอกที่เขาเช่ายิ่งนานยิ่งเสียหาย ผมก็เถียงมันยังไม่หมดเวลาที่ผมจะส่งมอบงาน "คุณจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรในเมื่อคุณมีคนงานอยู่แค่นี้"
ผมบอกด้วยศักดิ์ศรีและด้วยพันธสัญญาครับ ผมเอาให้คุณจบแน่นอน ด้วยความมั่นใจ หลังสงกรานต์ช่างยังไม่กลับผมขับรถไปกีบหมู หาช่างจ้างเหมาทีม ตัดเหมา คนทำผนังเสร็จ ช่างฝ้าเข้าเลย ขอเบิกเงินคุณหมอเงียบบอกว่าไม่สบาย วัสดุก็หมด ดิ้นรนหาหยิบยืมมาได้อีก 200,000.-ซื้อวัสดุเข้าทำ ของหมดคุณหมอเงียบ งานทำไปได้ 85% สามีคุณหมอ มาตรวจงานพร้อมกับช่าง เจอคนงานจากกีบหมูทักทายกัน แล้วกลับ ผมถามคนงานเขาบอก สามีคุณหมอก็เป็นผู้รับเหมา ผมก็งง ทำไมไม่ทำเอง ทำต่ออีกวันสองวัน ของหมดติดต่อคุณหมอไม่ได้ เงินก็หมดไม่มีจ่ายค่าแรงช่าง ต้องเดือดร้อนหาหยิบหายืม อย่าถามหาหลวงพ่อเงินวัดยางคลานนะครับ นิมนต์ขึ้นหิ้งพระไปนานแล้ว
คนงานเก็บของกลับเพราะเห็นท่าไม่ดีผมไม่มีเงินทำต่อแน่
ผมไม่เข้าหน้างาน 2 วันวันที่ 3 คนงานพม่าจะไปเก็บเครื่องมือกลับ โทรมาบอกประตูล๊อค เขียนป้ายติดใว้ว่า ห้ามเข้า อันนี้ไปดูเองครับ พม่าอ่านไม่ออก
ผมโทรหาคุณหมอไม่รับสายเลย สักพักสามีคุณหมอโทรมาบอกว่าคุณหมอไม่ให้ทำต่อแล้ว ฝีมือไม่ผ่าน นัดผมเจรจาในวันอาทิตย์ ที่ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน แฟนผมไม่ใว้ใจเพราะออฟฟิศเรามีไม่มาคุย ก็จ้างเพื่อนที่เป็นคนในเครื่องแบบไปเป็นเพื่อน สามีคุณหมอบอกว่า เขาเป็นผู้รับเหมาเหมือนกันเห็นใจผม แต่ก็ทำอะไรไมได้ ที่ไม่ทำเองเพราะทำไปก็ทะเลาะกันไป เลยต้องจ้างคนอื่นทำ ตามสายตาเขาฝีมือผมก็ไม่ถึงกับแย่ เพราะราคาต่อตารางเมตรไม่ถึง 5,000 ไม่ได้เป็นหมื่นสองหมื่น ผมพยายามพูดว่างานผม 85% แล้ว ผมเบิกคุณหมอมาแค่ 40% ถึงจ่ายเงินตามงวดผมก็ขาดทุนอยู่แล้วเนื่องจากงานเร่งต้องจ้างช่างกีบหมูค่าแรงสูงมาก เขาบอกเขารู้ แต่เชื่อเหอะคุณหมอไม่ให้ผมแม้แต่บาทเดียว เขายืนยัน เขาช่วยได้แค่ให้คนงานไปเก็บเครื่องมือกลับ เท่านั้น จะฟ้องร้องอย่างไรก็เชิญเขาไม่กลัว ผมกลับออกมาด้วยหัวใจห่อเหี่ยว กลับมาถึงออฟฟิศ กอดคอกันร้องให้กับภรรยา ที่ผ่านมาช่วงสงกรานต์อย่างน้อยเราไม่ไปใหนก็อยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากับลูกๆปีนี้อยู่แต่หน้างานตากแดดจนหน้าดำ กลับต้องมาเป็นแบบนี้ รถไม่มีขับ แถมมีหนี้อีกเป็นล้าน ผมดิ้นรนไปปรึกษาทนายๆบอกฟ้องคดีแพ่งได้ มีค่าวางศาลมีค่าทนาย ขอผม 5 แสน จ่ายก่อนทำคดี ผมคิดในใจผมจะเอามาจากใหนค่าแรงงานลูกน้องพม่า 5,000 ยังไม่มีจะจ่ายเลย ท้อแท้และสิ้นหวัง
ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร ผมจะทำอย่างไรต่อไป ติดตามต่อไปนะครับ เรื่องมันยาว