วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ค้าขายต้องมีทุน EP9

EP 9 ค้าขายต้องมีทุน(หายนะเกิดแล้ว)

วันรุ่งขึ้น คุณหมอกับสามีก็เข้ามาดูบ้านตัวอย่าง ดูจากสีหน้าแล้ว คงพอใจเป็นยิ่งนัก ข้าน้อยก็ยิ้มแก้มปริ "หวังเฉา หม่าฮั่น เตรียมสัญญาาาาาาา"5555

ปล่อยให้ปรึกษากันอยู่นานสองนานก็ถึงเวลาเข้าห้องเย็น มีข้อแม้ว่า

1/ ผมจะต้องหาช่างวางท่อระบายน้ำใต้ดินและงานฐานรากให้ด้วย

2/ราคาสู้ใหวแค่ 4 ล้านบาทมากกว่านี้ไม่เอา

ผมบอกขอเวลาคิดดูก่อนและหาช่างก่อน เพราะงานระบบระบายน้ำและงานฐานรากผมทำไม่เป็นและไม่มีความรู้เลย ปรึกษาเพื่อนที่เป็นวิศวกร ก็แนะนำมาให้ ผมก็ให้ไปคุยกับทางคุณหมอเอง ผมนัดคุณหมอและผู้รับเหมาให้ไปพบกันที่หน้างาน ต่อรองราคาอะไรกันเสร็จสรรพ ผมก็ออกตัวเลยว่า คุยกันเองนะครับผมแค่แนะนำให้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยและไม่สามารถตรวจงานและช่วยดูแลได้เพราะไม่มีความรู้เลย ทุกฝ่ายรับทราบตามนี้

หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ คุณหมอก็นัดทำสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างกับผม ผมก็สอบถามคุณหมอว่าท่อระบายน้ำกับฐานรากจะเสร็จเมื่อไหร่ คุณหมอแจ้งว่าช่างแจ้งว่า 45 วันเสร็จ ผมก็บอกว่าให้เค้าทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาทำสัญญากับผมก็ได้ คุณสามีคุณหมอแย้งว่า ก็ของคุณมันเป็นการสร้างเป็นชิ้นส่วน คุณสามารถทำได้เลยแล้วพอเขาเสร็จคุณก็นำเข้าไปติดตั้งได้เลย สัญญาก็รวดไปเลยสามงวดพร้อมจ่ายจะได้ไม่ต้องรอกัน

ผมเลยทำสัญญาและบวกเวลาในการทำฐานรากเข้าไปด้วย รวมแล้ว 26 หลัง 110 วัน รับเงินตามสัญญามา 30%เริ่มสั่งโครงสร้าง ถัดมาอีกวันนึง สามีคุณหมอโทรมาตามให้ไปหน้างานด่วน ผมรีบขับรถไปหน้างาน "คุณเอาใครมาทำงานให้ผมเนี่ย วางท่อระบายน้ำแบบนี้น้ำย้อนหมด ไม่เอาระดับ วางท่อผิดด้านแบนี้น้ำซึมออกหมด ผมถามช่างว่าคุณเคยทำมั้ย ช่างบอกไม่เคยทำ ผมโทรหาผู้รับเหมา ผู้รับเหมาบอกว่าตอนผมไปดูที่คนของผมยังว่างแต่ตอนนี้ไม่ว่างเลยไปเอาคนงานที่อื่นมาทำ เดี๋ยวจะรีบไปดู ผมก็บ่นให้ แต่ก็คิดในใจมันเรื่องอะไรของกูมั้ยเนี่ย

ผุ้รับเหมามาแล้วก็ทะเลาะกันกับสามีคุณหมอ แล้วบอกว่าไม่ทำแล้ว สามีคุณหมอโทษผมที่แนะนำคนไม่ดีมาให้ ให้ผมช่วยหาใหม่ ผมไม่รับปาก แกโทรมาตามวันละสามรอบสุดท้ายต้องหาจากเพื่อนๆเพื่อนรับปากแต่ตอนนี้ติดงานต้องอีก 10 วันถึงจะไปทำให้ได้ สามีคุณหมอรับทราบ

ผมก็ทำงานของผมไปเรื่อยๆงานเกินเปอร์เซ็นงานไปมาก แต่เนื่องจากหน้างานจะต้องติดตั้งแล้วเสร็จจึงจะเบิกเงินขอเบิกคุณหมอเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเปอร์เซ็นงาน เอางัยดีช่างก็ไม่มีงานจะทำแล้ว เงินก็ไม่มีจะซื้อของแล้ว ค่าแรงเริ่มติดช่างแล้ว สุดท้ายหายืมเงินข้อแม้คือ 1/ร้อยละ 10 ต่อเดือน 2/ต้องยึดรถเป็นประกัน

ฝืนไม่ใหวก็ต้องยอมครับ รับเงินเขามา 630,000.-บาทแต่สัญญาเขียน700,000.-ก็ต้องยอมครับ เบี้ยล่างย่อมต้องถูกกดขี่อยู่แล้ว กว่าจะเข้าหน้างานได้ ก็ปาเข้าไปวันที่ 70 และที่สำคัญจะเข้าเทศกาลสงกรานต์พอดี

เข้าหน้างานได้วันที่ 9 เมษาอีกวันก็จะเริ่มเข้าเทศกาลสงกรานต์ ผมขนของเข้าหน้างานเริ่มประกอบและติดตั้ง คุณหมอเข้ามาดูหลังจากที่ผมติดตั้งไปแล้ว 9 หลัง(ใวมากครับ)ขอเบิกเงินคุณหมอๆให้มาเพิ่มอีก 10% บอกว่าไม่ต้องกลัว ติดตั้งเสร็จแล้วให้เบิกเลย พึ่งเข้าหน้างานได้ 2 วันเอง ผมชี้แจงว่าผมทำไปเกินเปอร์เซ็นงานมากเพราะเป็นชุดประกอบสำเร็จรูป คุณหมอบอก ก็มันยังกองอยู่ที่พื้นยังไม่ได้ประกอบก็คือยังไม่ได้ทำงานแหล่ะ ไม่ต้องห่วงเงินน่ะมีพร้อมไม่ได้กู้ธนาคาร วันรุ่งขึ้นคุณหมอส่งกระเบื้องปูพื้นมาให้ ตามเงื่อนไขว่ากระเบื้องปูพื้นกับผนังคุณหมอขอซื้อเอง กระเบื้องมาถึงช่างปูกระเบื้องบ่นอุป กระเบื้องเกรด Bหรือ C มันจะปูยากมาก แผ่นมันงอมุมจะกระดก สงกรานต์เทศกาลแห่งความสุข แต่ผมล่ะทุกข์ถนัด ช่างหายไปทีละคนสองคน วันสงกรานต์เหลือคนงานพม่า 2คู่ สามีคุณหมอโวยหนัก บอกที่เขาเช่ายิ่งนานยิ่งเสียหาย ผมก็เถียงมันยังไม่หมดเวลาที่ผมจะส่งมอบงาน "คุณจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรในเมื่อคุณมีคนงานอยู่แค่นี้"

ผมบอกด้วยศักดิ์ศรีและด้วยพันธสัญญาครับ ผมเอาให้คุณจบแน่นอน ด้วยความมั่นใจ หลังสงกรานต์ช่างยังไม่กลับผมขับรถไปกีบหมู หาช่างจ้างเหมาทีม ตัดเหมา คนทำผนังเสร็จ ช่างฝ้าเข้าเลย ขอเบิกเงินคุณหมอเงียบบอกว่าไม่สบาย วัสดุก็หมด ดิ้นรนหาหยิบยืมมาได้อีก 200,000.-ซื้อวัสดุเข้าทำ ของหมดคุณหมอเงียบ งานทำไปได้ 85% สามีคุณหมอ มาตรวจงานพร้อมกับช่าง เจอคนงานจากกีบหมูทักทายกัน แล้วกลับ ผมถามคนงานเขาบอก สามีคุณหมอก็เป็นผู้รับเหมา ผมก็งง ทำไมไม่ทำเอง ทำต่ออีกวันสองวัน ของหมดติดต่อคุณหมอไม่ได้ เงินก็หมดไม่มีจ่ายค่าแรงช่าง ต้องเดือดร้อนหาหยิบหายืม อย่าถามหาหลวงพ่อเงินวัดยางคลานนะครับ นิมนต์ขึ้นหิ้งพระไปนานแล้ว

คนงานเก็บของกลับเพราะเห็นท่าไม่ดีผมไม่มีเงินทำต่อแน่

ผมไม่เข้าหน้างาน 2 วันวันที่ 3 คนงานพม่าจะไปเก็บเครื่องมือกลับ โทรมาบอกประตูล๊อค เขียนป้ายติดใว้ว่า ห้ามเข้า อันนี้ไปดูเองครับ พม่าอ่านไม่ออก

ผมโทรหาคุณหมอไม่รับสายเลย สักพักสามีคุณหมอโทรมาบอกว่าคุณหมอไม่ให้ทำต่อแล้ว ฝีมือไม่ผ่าน นัดผมเจรจาในวันอาทิตย์ ที่ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน แฟนผมไม่ใว้ใจเพราะออฟฟิศเรามีไม่มาคุย ก็จ้างเพื่อนที่เป็นคนในเครื่องแบบไปเป็นเพื่อน สามีคุณหมอบอกว่า เขาเป็นผู้รับเหมาเหมือนกันเห็นใจผม แต่ก็ทำอะไรไมได้ ที่ไม่ทำเองเพราะทำไปก็ทะเลาะกันไป เลยต้องจ้างคนอื่นทำ ตามสายตาเขาฝีมือผมก็ไม่ถึงกับแย่ เพราะราคาต่อตารางเมตรไม่ถึง 5,000 ไม่ได้เป็นหมื่นสองหมื่น ผมพยายามพูดว่างานผม 85% แล้ว ผมเบิกคุณหมอมาแค่ 40% ถึงจ่ายเงินตามงวดผมก็ขาดทุนอยู่แล้วเนื่องจากงานเร่งต้องจ้างช่างกีบหมูค่าแรงสูงมาก เขาบอกเขารู้ แต่เชื่อเหอะคุณหมอไม่ให้ผมแม้แต่บาทเดียว เขายืนยัน เขาช่วยได้แค่ให้คนงานไปเก็บเครื่องมือกลับ เท่านั้น จะฟ้องร้องอย่างไรก็เชิญเขาไม่กลัว ผมกลับออกมาด้วยหัวใจห่อเหี่ยว กลับมาถึงออฟฟิศ กอดคอกันร้องให้กับภรรยา ที่ผ่านมาช่วงสงกรานต์อย่างน้อยเราไม่ไปใหนก็อยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากับลูกๆปีนี้อยู่แต่หน้างานตากแดดจนหน้าดำ กลับต้องมาเป็นแบบนี้ รถไม่มีขับ แถมมีหนี้อีกเป็นล้าน ผมดิ้นรนไปปรึกษาทนายๆบอกฟ้องคดีแพ่งได้ มีค่าวางศาลมีค่าทนาย ขอผม 5 แสน จ่ายก่อนทำคดี ผมคิดในใจผมจะเอามาจากใหนค่าแรงงานลูกน้องพม่า 5,000 ยังไม่มีจะจ่ายเลย ท้อแท้และสิ้นหวัง

ชีวิตผมจะเป็นอย่างไร ผมจะทำอย่างไรต่อไป ติดตามต่อไปนะครับ เรื่องมันยาว

เครดิต โกหย่ง

ล้ม ลุก คลุก คลาน ep 1 ผมกำลังติดกับดัก

ผมกำลังติดกับดัก!!!
ปี 2557 ผมทำธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง และ รับสร้างบ้านสำเร็จรูป ธุรกิจไปได้ดี ชนิดที่ว่า หาลูกน้องไม่ทัน จนท้ายที่สุด ต้องใช้วิธีจ้างเหมา นี่คือหายนะ จากการที่มีธุรกิจที่ดี มีรายได้ใช้หนี้ที่สะสม มาจากธุรกิจเดิมหลักสิบ.. ใช้หนี้ได้จนหมด ถึงปี 59 พอเริ่มจ้างเหมา 6 เดือนให้หลัง ผมมีหนี้อีก นับสิบ..
หนี้มาจากอะไร
1/ผู้รับเหมาทิ้งงาน
2/ผู้รับเหมาขโมยวัสดุก่อสร้างไปทำงานที่อื่น
3/ผู้รับเหมาทำงานไม่ได้มาตรฐาน
4/ความคาดหวังของลูกค้า อันนี้สำคัญที่สุด จ้างทำบ้าน ตารางเมตรละ 3,500.-แต่คาดหวังเหมือนจ้างตารางเมตรละ 20,000.-หาที่จบกันยาก
ผมเลิกทำธุรกิจนี้ และ ทำหนังสือรับสภาพหนี้ ให้ผู้ว่าจ้างทุกหลัง รับชดใช้ค่าเสียหายทุกบาทพร้อมดอกเบี้ย ขายเครื่องไม้เครื่องมือทิ้ง เลิกจ้างคนงานจ่ายค่าชดเชยและให้เครื่องมือให้เค้าไปหางานทำที่ใหม่
เคว้งคว้างอยู่ร่วมเดือน ใช้หน้าบ้านทำออฟฟิศ ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินใช้หนี้ที่จะต้องจ่ายอีก 2 เดือนหลังจากนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้
จากคนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ก็วิ่งหาเจ้าของโครงการ ขอซื้อเศษเหล็ก เศษวัสดุ ขายร้านรับซื้อของเก่าทำอยู่เป็นปีมีเงินใช้หนี้เขาทุกเดือน จนรู้จักคนเยอะขึ้น ก็ได้ธุรกิจตัวใหม่ ทำเงินได้ดี ใว้พรุ่งนี้จะเล่าให้ฟัง ว่าผมติดกับดักอะไรครับ

วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ค้าขายต้องมีทุน ep8

ค้าขายต้องมีทุน

EP8(จุดเริ่มต้นของความหายนะ)

ผมเดินทางไปสระบุรี ไปโรงงานผลิต lightweight steel ชมการสาธิตการผลิตบ้านสำเร็จรูปโครงสร้างเหล็กไร้สนิม ซึ่งใช้เหล็กไร้สนิมทั้งส่วนของพื้น ผนัง หลังคา ตามที่ฝ่ายการตลาดของบริษัทฯนัดหมายใว้
ผมขับรถโดยใช้ google map ตามที่ฝ่ายการตลาดส่งให้ นัดหมาย

10.00 ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 07.00น.ไปถึงสระบุรี 8.30น.แต่ อากู๋ พาวนรอบเมืองสระบุรี 5 รอบวิ่งออกลัดทุ่งนา ผ่านวัด เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนหงุดหงิด สุดท้ายปิดปาก"อากู๋" ใช้บริการ "อากู"มั่ง เห็นน้องๆสาวโรงงานยืนรอรถอยู่เลยขับรถเข้าไปถาม 

ตอนแรกว่าจะเปิดกระจกฝั่งซ้ายให้ภรรยาถาม แต่เอ๊ะ!! ทำไมสวยจังหว่า ขับเลยไปหน่อย จอดรถลงไปถามเองดีกว่า แขม่วพุงยืดอก เดินหล่อๆไปถาม "น้องครับ "พี่"จะไปโรงงานนี้รู้จักมั้ยครับ ไปทางใหนครับ น้องบอกรู้จัก โรงงานที่หนูทำงานอยู่ เลยตรงนี้ไปอีกนิดเดียว "อ้าวเหรอ ไปกับพี่มั้ยพี่จะไปที่โรงงานพอดี" อ๋อ ไม่ค่ะ"ลุง"รอ"ผัว"มารับอยู่ค่ะ แป่วววววว@@@

ผมเดินเหี่ยวๆพุงยื่นขึ้นรถรีบขับไปให้เร็วที่สุด ไม่ถนอมน้ำใจกันเลย ใจร้ายยยย

ถึงโรงงานโดยบริการของอากูแล้ว 11.30น.แม่จ้าว
อันนี้ขอบอกทุกท่านนะครับว่า อะไรก็ตามที่มันยุ่งยากตั้งแต่ต้นมันจะเป็นลางบอกเหตุให้เราต้องระวังเสมอถ้าไม่ระแวดระวัง เจ็บตัวเสมอครับ

ไปถึงหน้าโรงงานแล้ว เจ้าของโรงงาน ผู้จัดการโรงงาน ทั้งคณะมายืนรอต้อนรับ ให้เกียรติมากชนิดที่ผมกับภรรยาเขิน ก็เรามันผู้ประกอบการเล็กๆทำไมถึงให้เกียรติเราขนาดนี้ พาเข้าห้องประชุม บรรยายวิธีการผลิต วิธีประกอบติดตั้ง และ ผลงานของบริษัทฯ

เสร็จแล้วพาไปชมของจริง สาธิตการผลิตจริง ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทุกขั้นตอน เขียนแบบเสร็จให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล สั่งผลิต บ้านทั้งหลังก็ผลิตออกมา โดยมีหมายเลขกำกับทุกชิ้น เราแค่ประกอบตามแบบก็เสร็จ ง่ายๆอีซี่ๆ

ชมเสร็จผมขอตัวกลับ ทางโรงงานไม่ยอม บอกจองโต๊ะใว้แล้วขออนุญาตเลี้ยงข้าวมื้อนึง เสร็จแล้วก็จัดขบวน พาไปกินข้าวในภัตตาคารในเมืองสระบุรี

ทานข้าวเสร็จผมร่ำลากลับ ฝ่ายโรงงานทุกคนมายืนส่งขึ้นรถ จนผมแทบจะลอยขึ้นรถไปเลยให้เกียรติมากๆ

ผมว่าจุดนี้นี่เอง บริษัทเขาถึงได้ใหญ่โต เพราะเขาใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ ต้นไม้ใหญ่ยิ่งสูงเท่าไหร่ ยอดก็จะต้องอ่อนโยน พร้อมที่จะโน้มลงดิน หรือ อ่อนใหวไปตามลม เพื่อมิให้เป็นอันตรายแก่ตน ถ้าแข็งกร้าวเท่าไหร่ก็จะได้เป็นแค่ "ต้นไม้ปลายกุด" แค่นั้นเอง

ผมกลับมานั่งคิดวิเคราะห์สรุปได้ว่า จะใช้บริการในส่วนของผนังและหลังคา ของโรงงานนี้ในการสร้างบ้าน ส่วนพื้นคงยังต้องทำแบบอื่นเพื่อประหยัดต้นทุน

ผมหารือฝ่ายวิศวะของโรงงาน เพื่อให้ระยะห่างของเหล็กมากขี้นเพื่อประหยัด ตอนแรกไม่ยอมแต่พอผมชี้แจงไปว่าผมจะทำอะไรต่อไป เขาก็โอเค เห็นด้วยตามที่ผมเสนอ

ผมส่งแบบให้ทางโรงงานและสั่งผลิต 1 หลัง หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ทางโรงงานแจ้งว่า จะจัดส่งสินค้าให้ในวันรุ่งขึ้น ให้ผมชำระเงิน 100%เต็ม นี่ก็เป็นจุดที่ต้องเอาอย่างเขา รวดเร็ว และ รอบคอบ ไม่รั่วไหล

สินค้าที่มาส่งผม เอารถกะบะส่งของมา มีทั้งหมด 8 มัด ใช้คนสองคนยกลง แป๊บเดียวเสร็จ ผมยืนมอง ไรว้า!!! นี่บ้านทั้งหลังนะเฮ้ย!! ถามคนส่งของว่าครบแน่นะ เขาบอกครบครับ หลังเล็กนิดเดียวมีเท่านี้แหล่ะครับ ผมล่ะทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

ผมให้คนงานประกอบตามแบบ ใช้เวลาค่อนวันก็เสร็จได้โครงสร้างบ้านหลังนึง บ่ายก็ให้ช่างมุงหลังคาใช้เมทัลชีทที่สั่งเตรียมใว้มุง เสร็จก็ให้ช่างยิงแผ่นผนังทั้งหลัง วันนี้ 1 วันได้บ้านแล้ว 70% วันรุ่งขึ้น ผมให้ช่างพ่นโฟมpu กันร้อนทั้งในส่วนผนังและหลังคา ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเสร็จเรียบร้อยให้ช่างยึดแผ่นไม้อัด

ฟิล์มดำยิงแบบผนังทั้งหลังเสร็จแล้ว ผมให้ช่างตั้งเครื่องผสมปูนใส่ส่วนผสม ทราย ปูน ฟองโฟม ได้ที่แล้ว ก็ใช้ปั๊มแช่ดูดส่วนผสมทั้งหมดใช้สายยางฉีดเข้าผนังทั้งหมด ขั้นตอนนี้ก็ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ทำอะไรต่อไม่ได้แล้วก็ให้ช่างกับคนงานไปทำอย่างอื่น 

ผมกับภรรยาก็ไปร้านกระจกอลูนิเนียมไปดูบานกระจกสองชั้นที่สั่งใว้ ราคาแพงมากครับ เพราะเราสั่งน้อย เสร็จแล้วทางร้านบอกผมดูความเรียบร้อยของงาน ชำระเงินแล้วก็ให้ทางร้านจัดส่งไปให้

วันรุ่งขึ้นหลังช่างแกะแบบไม้อัดออกแล้ว ผนังที่ออกแบบมาสวยมากแต่คงต้องสกิมผิวอีกครั้ง เนื่องจากโฟมทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเท่าที่คิดใว้

ผมให้ช่างสกิมผิวผนังทั้งหลังบ่ายกว่าๆก็เสร็จ (ไฟฟ้าและประปาฝังใว้ตั้งแต่ก่อนฉีดผนังแล้ว)

บ่ายผมให้ช่างติดตั้งฉนวนเก็บเสียง+ฝ้าอลูมิเนียมสำเร็จรูป ไม่ต้องตีโครงฝ้า ใช้ส่วนโครงหลังคายิงยึดได้เลย ช่วงเย็น ช่างก็ติดตั้ง ไฟฟ้า ประปา ชั่วโมงนึงเสร็จ หมดไปอีกวัน

วันรุ่งขึ้น ช่างก็ทาสี ติดตั้งหน้าต่าง เก็บงาน ขั้นตอนสุดท้าย ช่างก็ปูพื้นด้วยลามิเนต ติดตั้งบานประตู เสร็จแล้ว บ้านหนึ่งหลัง (ไม่รวมห้องน้ำ)
บ้านที่ได้ สวยงาม ความร้อนเข้ามาในบ้านน้อยมาก เก็บเสียงได้ดี ที่สำคัญ สร้างได้เร็วมาก

อันนี้หลังที่ 1 ยังทำได้แค่นี้หลังต่อไปจะต้องใวกว่านี้ เรียบร้อยกว่านี้ ผมคำนวนคร่าวๆ บ้าน 26 หลังของคุณหมอ ถ้าสร้างพร้อมกัน 2 เดือนเสร็จแน่นอน

ผมแจ้งให้คุณหมอทราบว่าบ้านตัวอย่างเสร็จแล้ว คุณหมอตอบรับและแจ้งว่าวันรุ่งขึ้นจะเข้ามาดู

วันนี้ผมสั่งหมูกะทะชุดใหญ่ให้ช่างครอบครัวละ 1 ชุดใหญ่ ส่วนผมกับภรรยากลับบ้านแวะตลาด ซื้อหมูกะทะที่เขาทำสำเร็จเป็นกิโล ซื้อ ผักสด เห็ด วุ้นเส้น ไปฉลองความสำเร็จล่วงหน้า ภรรยาบอกว่า คืนนี้จะจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้ 55555

ใว้จะเล่าให้ฟังใหม่ว่า ดูเหมือนจะดีทุกอย่าง แต่ ผมล้มเพราะอะไร และ ทำไมถึงเข็ดกับอาชีพนี้ เรื่องมันยาวครับ

โกหย่ง

ข้อดีของระบบกงสี


ข้อดีของระบบกงสี

ทุกคนในครอบครัวมั่งคั่งเสมอกัน : เมื่อพี่น้องทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทุกคนเป็นเจ้าของกงสีร่วมกัน จึงถือว่ามีความมั่งคั่งเท่าเทียมกัน ในบางครอบครัวเงินกองกลางของกงสีจะถูกจัดสรรรไปยังสมาชิกแต่ละคนอย่างเท่า ๆ กัน หรือตามแต่จะร้องขอ พี่น้องจึงได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอย่างเต็มที่

มีพื้นฐานที่รุ่นก่อนสร้างไว้ให้ : ธุรกิจกงสีส่วนมากมักจะเป็นกิจการเก่าแก่ที่พ่อแม่ปู่ย่าวางรากฐานไว้ให้ เมื่อรุ่นหลังเข้ามาบริหารต่อจึงไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ความเสี่ยงน้อยกว่าการก่อตั้งกิจการใหม

ปลูกฝังทายาทได้ตั้งแต่เด็ก : กิจการกงสีมักจะมีการสืบทอดทายาทจากรุ่นสู่รุ่น (ส่วนมากมักจะมอบแก่ลูกชายคนโต หรือลูกคนที่มีส่วนช่วยในการบริหารมากที่สุด) ด้วยเหตุนี้จึงสามารถปลูกฝังและฝึกสอนคนที่จะมารับช่วงต่อได้ตั้งแต่ยังเด็ก

ภาคภูมิใจที่ได้สานต่องานครอบครัว : สมาชิกกงสีหลายคนพอใจที่จะกลับมาช่วยกิจการครอบครัว ด้วยความภาคภูมิที่ได้สานต่อธุรกิจที่พ่อแม่สร้างไว้ให้เติบโต และบางคนอาจมองว่าเป็นความท้าทายที่จะได้พัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าทันโลกยุคใหม่


ที่มา https://www.powersmethai.com/sme-article/pro-con-family-business/


ข้อดีของกงสี คือ ถ้าเราบริหารจัดการดี เราก็ได้ใช้ประโยชน์ซึ่งกันเเละกันในครอบครัวเเละสามารถขยายกิจการได้  มันมีกฎระเบียบที่ชัดเจน มีวัตถุประสงค์ในการใช้มันก็อยู่ และ มีกระบวนการที่จะสะสมให้ตัวทรัพย์สินต่างๆ ให้มันมั่งคั่งขึ้นเรื่อย ๆ

ที่มา https://thaiwinner.com/gong-si/


ระบบกงสี คือที่สุดของสภาพคล่องของทุนหมุนเวียน

ธุรกิจในบริหารในระบบกงสีนั้น เรียกได้ว่ามีเงินสดไหลเวียนอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ค่อยได้ใช้คนนอกในการทำงาน และมีวิธีการบริหารการเงินแบบเก่าคือ มีหนี้น้อยกว่ามูลค่าทรัพย์สินที่มีอยู่ เมื่อจะลงทุนใดๆ จะไม่ค่อยชอบกู้แบงค์ ถ้าจะกู้จริงๆ ก็จะพยายามวางเงินทุนไว้ก่อน 60 เปอร์เซนต์ เนื่องจากวิธีการบริหารเงินในแบบเก่านั้น ไม่ต้องการให้คนทำธุรกิจต้องห่วงหน้าพะวงหลัง กับดอกเบี้ยธนาคารที่วิ่งทุกวัน และ เหมือนคำกล่าวที่ว่า “ธนาคารมักจะให้ร่มคุณในวันที่แดดออก และ มาเอาคืนในวันที่ฝนตก”


เมื่อเป็นเช่นนี้การบริหารทางการเงินของระบบกงสี จึงไม่ค่อยพึ่งพิงธนาคารมากนัก และ เป็นการดำเนินธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ก้าวพรวดพราดทำให้หลายๆธุรกิจที่เกิดจากระบบกงสีนั้น มีความแข็งแรง และสามารถประคองตัวให้รอดได้ เมื่อต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ที่มา https://tonkit360.com/31574



วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ธรรมาภิบาลคืออะไร?



ธรรมาภิบาลคืออะไร?

   ธรรมาภิบาล ( Good Governance) คือ การปกครอง การบริหาร การจัดการการควบคุมดูแล กิจการต่าง ๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม นอกจากนี้ยังหมายถึงการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน ธรรมที่ใช้ในการบริหารงานนี้ มีความหมายอย่างกว้าง กล่าวคือ หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึง ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และความถูกต้องชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ อาทิ ความโปร่งใสตรวจสอบได้ การปราศจากการแทรกแซงจากองค์กรภายนอก เป็นต้น

ธรรมาภิบาล เป็นหลักการที่นำมาใช้บริหารงานในปัจจุบันอย่างแพร่หลาย ด้วยเหตุเพราะ ช่วยสร้างสรรค์และส่งเสริมองค์กรให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพ อาทิ พนักงานต่างทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตและขยันหมั่นเพียร ทำให้ผลประกอบการขององค์กรธุรกิจนั้นขยายตัว นอกจากนี้แล้วยังทำให้บุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ศรัทธาและเชื่อมั่นในองค์กรนั้น ๆ อันจะทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น องค์กรที่โปร่งใส ย่อมได้รับความไว้วางใจในการร่วมทำธุรกิจ รัฐบาลที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและประชาชน ตลอดจนส่งผลดีต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เป็นต้น (http://th.wikipedia.org)

สำนักงาน ก.พ. ได้กำหนดไว้โดยได้เสนอเป็นระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า หลักธรรมาภิบาลนั้นประกอบด้วย 6 หลักการคือ
1. หลักคุณธรรม
2. หลักนิติธรรม
3. หลักความโปร่งใส
4. หลักความมีส่วนร่วม
5. หลักความรับผิดชอบ
6. หลักความคุ้มค่า
แต่จะเป็นหลักการใดก็ตาม ก็จะเห็นว่าหลักการทั้งหลายล้วนมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษา “ความสมดุล” ในมิติต่างๆไว้ เช่น หลักคุณธรรมก็คือการรักษาสมดุลระหว่างตนเองกับผู้อื่น คือไม่เบียดเบียน ผู้อื่นหรือตัวเองจนเดือดร้อน ซึ่งการที่มีความโปร่งใส เปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม ตรวจสอบ ก็เพื่อมุ่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เห็นถึงความสมดุลดังกล่าวว่าอยู่ในวิสัยที่ยอมรับได้ ส่วนหลักความรับผิดชอบ ก็ต้องสมดุลกับเสรีภาพที่เป็นสิ่งที่สำคัญของทุกคน และหลักความคุ้มค่า ก็ต้องสมดุลกับหลักอื่นๆ เช่น บางครั้งองค์การอาจมุ่งความคุ้มค่าจนละเลยเรื่องความเป็นธรรมหรือโปร่งใส หรือบางครั้งที่หน่วยงานโปร่งใสมากจนคู่แข่งขันล่วงรู้ความลับที่สำคัญในการประกอบกิจการ ความสมดุล หรือ ธรรม จึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของธรรมาภิบาล

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Abuse of Power การใช้อำนาจในทางที่ผิด

 



Abuse of Power การใช้อำนาจในทางที่ผิด

คือ การที่ฝ่ายปกครองใช้อำนาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย การใช้อำนาจผิดเบือนจะมีได้ฝ่ายปกครองต้องมีดุลพินิจ


“อำนาจทำให้คนทุจริต ยิ่งมีอำนาจเด็ดขาด ก็ยิ่งทุจริตอย่างที่สุด”

(Power tends to corrupt,absolute power, corrupt absolutely) 

.....ลอร์ดแอ็คตัน  


คำว่า ”อำนาจ”ที่ ลอร์ดแอ็คตัน กล่าว หมายถึง อำนาจรัฐ (state power) หรือ อำนาจที่ตัวแทนรัฐใช้ในนามของรัฐ  มิใช่ของประชาชน  เป็นการบิดผันการใช้อำนาจ (abuse of power) ที่ประชาชนมอบให้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน  แต่กลับนำไปสร้างเสริมอำนาจของตนเองและพวกพ้อง ฉ้อราษฎร์บังหลวง ฉ้อฉล ยึดครองทรัพยากรของรัฐ ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส...วิชา มหาคุณ 2562


https://goodadministration.blogspot.com/2021/11/abuse-of-power.html



วันพุธที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

Six Sigma ซิกส์ ซิกม่า



ซิกส์ ซิกม่า (Six Sigma)

แนวคิด:

ซิกส์ ซิกม่า (Six Sigma) คือ เทคนิคการจัดการในการบริหารคุณภาพ และวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ โดยมุ่งเน้นให้เกิดความผิดพลาดและมีความสูญเสียน้อยที่สุด


key concept:

เทคนิคการจัดการ

การบริหารคุณภาพ 

วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ 

มุ่งเน้น

ความผิดพลาดน้อยที่สุด

ความสูญเสียน้อยที่สุด


goodadministration.blogspot.com


การแก้ปัญหาความขัดแย้ง(Conflict Management)

 การแก้ปัญหาความขัดแย้ง(Conflict Management) ไว้ 3 แนวทางดังนี้

              1. Domination คือ ใช้อำนาจอีกฝ่ายสยบลง คือให้อีกฝ่ายแพ้ให้ได้

              2. Compromise คือ คนละครึ่งทาง เพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยประนีประนอม

              3. Integration คือ การหาแนวทางที่ไม่มีใครเสียหน้า ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ทาง (ชนะ ชนะ)


#Conflict #Management #Domination #Compromise #Integration


กระบวนการจัดการ 5 อย่าง หรือ POCCC

แนวคิดของอองรี ฟาโยล วิศวกรชาวฝรั่งเศส เป็นเจ้าของแนวความคิดของการบริหารงานตามหน้าที่ โดยกระบวนการจัดการ 5 อย่าง หรือ POCCC

                   P Planing

                   O Organizing

                   C Commanding

                   C Coordinating

                   C Controlling

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

5 อุปสรรคที่ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จ

 5 อุปสรรคที่ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จ

1. ต้องเอาชนะความกลัวว่าจะต้องเสียเงิน

ผมไม่เคยเจอใครที่ชอบเสียเงิน และผมก็ไม่เคยเจอคนรวยที่ไม่เคยเสียเงิน แต่ผมเคยเจอคนจนที่ไม่ยอมเสียเงินในการลงทุนแม้แต่สตางค์เดียว

ทุกคนรวมทั้งคนรวยก็มีความกลัวว่าจะเสียเงินกันทั้งนั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความกลัว แต่ประเด็นคือเราจะจัดการกับความกลัวนี้อย่างไรต่างหากคุณจะจัดการอย่างไรถ้าต้องเสียเงิน ถ้าต้องล้มเหลว อุกอย่างในชีวิตนั้นแหละครับ ทั้งหมดขึ้นอยู่ว่าคุณจะมีวิธีจัดการอย่างไร คนจนกับคนรวยต่างกันตรงวิธีการจัดการกับความกลัวนี้เอง “ชนะคือการไม่กลัวที่จะแพ้“ “ความพ่ายแพ้มักจะตามมาด้วยชัยชนะ” ผมไม่เคยเจอนักกอล์ฟที่ไม่เคยเสียลูกกอล์ฟ หรือคนมีความรักที่ไม่เคยอกหัก และไม่เคยเจอคนรวยที่ไม่เคยเสียเงิน เพราะฉะนั้นสำหรับหลายๆคนที่ไม่รวยอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดจากการสูญเสียเงินที่เขาได้รับมีมากกว่าความสุขจากความร่ำรวย “ทุกคนอยากไปสวรรค์แต่ไม่มีใครอยากตาย” คนส่วนมากฝันถึงเงินล้าน แต่กลัวที่จะสูญเสียเงิน เขาเหล่านั้นจึงไม่โอกาสไปถึงสวรรค์

2. ขจัดความคิดด้านลบ

คนจำนวนมากพกแต่ความคิดด้านลบ แท้จริงแล้วทุกคนมี “ความคิดด้านลบ” อยู่ในตัวกันคนละนิดละหน่อย โดยเฉพาะในยามที่เรากลัวหรือไม่มีความมั่นใจ

ประเด็นที่ต้องการชี้ให้เห็นก็คือ ความไม่แน่ใจหรือความคิดด้านลบนั้นแหละที่ทำให้หลายคนไม่มีโอกาสรวย ก็อย่างที่ผมบอกไว้ การออกจากสนามแข่งหนูนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความกลัวต่างหากที่ฉุดรั้งคุณไว้

3. ความขี้เกียจ

ความขี้เกียจ คืออุปสรรคสำคัญของความสำเร็จ ทำให้หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง เพื่อ ตอบสนองความขี้เกียจของตนเอง จงเอาชนะความขี้เกียจได้ด้วย ความอยากได้อยากมี ความโลภ ความทะเยอทะยาน

“ หัดโลภเข้าไว้ – ความต้องการ ”

4. อุปนิสัย อุปนิสัยหลายอย่างที่ทำให้คนเราไม่ประสบผลสำเร็จ เช่น ขี้แพ้ ประนีประนอมมากไป บ้าบิ่นเกินไป ไม่อดทน ขาดความมุ่งมั่น ขาดแรงบันดาลใจ และอีกมากมาย

5. ความหยิ่งทะนงตน การที่มั่นใจในตนเองจนเกินไป จนกลายเป็นหยิ่งทะนงตน ถือดี อวดดี นอกจากจะทำให้ขาด connection ขาด partnership แล้ว ก็เป็นอุปสรรคในการประสบผลสำเร็จด้วย


เครดิต

พ่อรวยสอนลูก


อ่านๆไป ไม่ต้องเชื่อมาก หาแรงบันดาลใจให้เจอ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ

#goodadministration