วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563

ค้าขายต้องมีทุน ep2


ค้าขาย ต้องมีทุน
EP2

หลังจากเพื่อนบอกให้ติดต่อเจ้าของที่ ตอนสายของวันรุ่งขึ้น ผมโทรไปนัดเจ้าของที่เพื่อเจรจาเช่าที่ คุยกันแล้วก็นัดช่วงบ่ายของวันนั้น ณ.บริเวณด้านหน้าของป่ากระถิน บ่ายวันนั้นเจ้าของที่มากับคนขับรถส่วนผมมาคนเดียวเพราะเพื่อนติดธุระ มานั่งเจรจากันซอยข้างๆพื้นที่ อาศัยร่มเงาของตึกด้านข้างเจรจากัน ตกลงกันได้ สัญญาเช่า 20 ปี ผมขอจดทะเบียนการเช่ากับกรมที่ดิน เจ้าของที่ก็ไม่ขัด ผมขอค่าเช่าฟรี 3 เดือนเจ้าของที่ก็ไม่ขัด ผมขอจ่ายมัดจำ 3 เดือนจ่ายล่วงหน้า 1 เดือน รวม 4 เดือนทั้งที่โดยปกติที่มูลค่าขนาดนี้ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายปี เจ้าของที่ก็ไม่ขัด สงสัยวันนี้สาริกาลิ้นทองออกฤทธิ์ช่วยผมแน่ๆ 555


ผมนัดเจ้าของที่เป็นวันจันทร์ที่จะถึงเพื่อจดทะเบียนและทำสัญญาเช่า ณ.สำนักงานที่ดิน พอถึงวันจันทร์เพื่อนผมก็ติดธุระมาไม่ได้ ให้จดทะเบียนเช่าในนามผมไปเลยไม่ขัดข้อง ผมให้โอนเงินค่าเช่าค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายมาให้ก่อนเพราะนัดเจ้าของที่ 9 โมงตรง ขับรถออกจากบ้าน 08.30 เงินก็ยังไม่เข้าบัญชี ถึงสำนักงานที่ดิน 09.00เจ้าของที่มารอแล้ว เงินก็ยังไม่เข้าบัญชี ไปรับบัตรคิว มาแล้ว โทรหาเพื่อน กว่าจะโอนเงินมาให้ 09.30 ทันเวลาเจ้าหน้าที่เรียกเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว 


จำได้วันนั้นต้องดมยาดมตลอด มันเสียว ชนิดที่ว่า ต้องร้อง "เสียวโว้ยๆ"ในหัวตลอดที่ลุ้นเงินเข้าบัญชี ทำธุระเสร็จ ก็พอดีเที่ยง เจ้าของที่ชวนไปทานข้าวที่บ้าน ด้วยอารามดีใจ ที่หลังโฉนด มูลค่าร้อยล้าน มีชื่อผมสลักหลังอยู่ เป็นผู้เช่า ปลื้มใจจนกินข้าวไม่ลง เลยขอเป็นโอกาสหน้า ร่ำลากันแยกย้าย 

ผมก็ขับรถ ไปจอดในซอยข้างที่ๆเช่าเดินเข้าไปสำรวจ ป่ากระถิน โอ้!!!กองขยะเต็มพื้นที่กระจัดกระจาย มีกระโจม มีกรดพระ มีบาตรวางอยู่ เอ!หรือว่าพระธุดงค์ สักพัก เห็นคนหัวโล้นเดินถือขวดเหล้าขาว เดินโซซัดโซเซ เข้ามา พอเห็นผมก็ตกใจ แต่ก็ ตะโกนถามผมว่า มาทำอะไร หลวงพ่อไม่อยู่ ติดกิจนิมนต์ ผมคิดในใจ หลวงพ่อก็มึงนี่แหล่ะ ไม่อยากมีเรื่องกับคนเมา

ผมเลยบอกไปว่า ผม เจ้าของที่(ยืดอก)ช่วยบอกหลวงพ่อย้ายไปจำวัดที่อื่นก่อนนะครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะเอารถไถมาปรับพื้นที่ แล้วก็เดินออกมา เฮ้อ !!! เมื่อไหร่จะหมดไปซะที พวกมารศาสนา อาศัยผ้าเหลืองหากิน หากินได้กำไรเยอะด้วยเพราะหากินกับ"ความศรัทธา"
ผมกลับมาถึงบ้านนั่งทำแผนงาน การปรับปรุงพื้นที่ วางแผนงานการก่อสร้าง เลือกแบบแปลน HOME OFFICE โทรไปหาเพื่อน นัดเจอกันตอนเย็นที่บ้านเพื่อน เจอกับเพื่อนตอนเย็นคุยกันเรื่องแผนงาน เอาเรื่องแรกก่อน การปรับพื้นที่ ผมเสนอให้เอารถไถ


ปรับพื้นที่ แต่เพื่อนบอก ต้นกระถินมันโตมาก ต้องใช้รถเกรดขนาดใหญ่ มันแพง ให้หาคนงานไปตัดก่อนแล้วค่อยเอารถไถเล็ก ปรับพื้นที่อีกทีจะคุ้มค่ากว่า ผมเลยเสนอว่า งั้นจะติดต่อพวกที่เขาซื้อเศษไม้งานก่อสร้างมาตัดต้นไม้ ยกต้นกระถินให้เขาทั้งหมดฟรีๆอาจจะเสียค่าแรงให้เขานิดหน่อย เพื่อนบอกว่า จ้างเขาตัด แล้วเอาไม้ใว้ขายดีกว่า ด้วยที่เขาเป็นเจ้าของเงิน เป็นนายทุน ทั้งๆที่ในใจผมมันค้าน ก็ต้องเออออห่อหมกไปกับเขาด้วย 


อันนี้เป็นบทเรียนหนึ่งที่ว่า ค้าขายต้องใจแข็ง เด็ดขาด อย่าเอาแต่เกรงใจ เพราะมันจะมีผลเสียตามมา งานนี้เข้าตำราเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เพราะหลังจากจ้างเขาตัดต้นไม้แล้ว เอารถไถมาปรับที่แล้ว กองต้นกระถินกองโตนี้ก็สร้างปัญหา หาคนซื้อไม่ได้ ต้องจ้างรถมาขนไปทิ้ง ต้องเสียค่ารถเครนมายกไม้ขึ้นรถให้เขาอีก สรุปงานนี้ ค่าตัดต้นไม้ ค่ารถไถปรับพื้นที่ ค่ารถเครน ค่ารถขนต้นไม้ไปทิ้ง วันนั้นถ้าตัดสินใจยกต้นไม้ให้เขาฟรี ก็แค่ต้องจ่ายค่ารถไถปรับพื้นที่เท่านั้น

ผมเขียนแบบ วางผังบริเวณ ทำงบก่อสร้าง ทำเรื่องขออนุญาต ก่อสร้าง แจ้งเพื่อนถึงงบประมาณ และ ชวนไปเปิดบัญชีธนาคาร ทำสัญญากู้เงินเพื่อนที่จะลงทุนในส่วนของผม ตกลงเงินลงทุนอยู่ที่ 20 ล้าน เป็นส่วนของผม 10 ล้าน งบก่อสร้าง 14 ล้าน เหลืองบบริหารอีก 6 ล้าน เฟสแรก จะสร้าง HOME OFFICE สองข้างๆละ 6 หลัง เฟสที่ 2 จะสร้างศูนย์อาหารด้านหลัง


เมื่อทำเสร็จแล้ว จะมีรายได้จากการให้เซ้ง HOME OFFICE 12 หลัง 6 ล้านบาท ค่ามัดจำ 7.2แสน ค่าเช่าล่วงหน้า 2.4 แสน ค่าเซ้งศูนย์อาหาร 1 ล้าน ค่ามัดจำ 1.2 แสน ค่าเช่าล่วงหน้าอีก 4 หมื่น เบ็ดเสร็จแล้ว จะได้คืนทุนก่อน 7.8 ล้าน คืนทุนได้ทั้งหมด ภายใน 3 ปี เหลือ 17 ปี กำไรล้วนๆ


เพื่อนบอกเรื่องเงินรออีก 2 อาทิตย์ถึงจะได้เงิน ในระหว่างนี้ ผมก็เรียกลูกน้องเก่าชาวพม่า มา 2 คู่สามีภรรยา มาช่วยงาน ปักหมุดตีผัง เอาใว้ก่อน ในพื้นที่ผมเหลือต้นไม้ใหญ่ ใว้สองต้น ต้นก้ามปู 1 ต้น ต้นกระจง 1 ต้น ช่วงที่ยังไม่มีออฟฟิศ ก็อาศัยร่มไม้นี้ตั้งโต๊ะเป็นที่ทำงานชั่วคราวไปก่อน ผ่านไปแล้วสองอาทิตย์โทรหาเพื่อนๆบอกยังไม่ได้เงินให้รอไปอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์ ป๊ะ!! คนงานพม่าไม่มีอะไรทำ หญ้าก็ถอนจนไม่มีให้ถอนแล้ว ว่างก็ไปจับนกจับหนูมาทำกับข้าว จนที่แถวนั้นที่รกๆ หนูก็ไม่มีให้จับ นกก็ไม่กล้าบินมา กลัวพม่ากันไปหมด เรื่องหาอาหารกินนี่ ผมยกให้เขาเลย ไปอยู่ที่ใหน นก หนู ปลา วอดวายหมด จับกินจนสูญพันธ์ 5555


ผ่านไปจนครบเดือน ค่าใช้จ่ายผมเริ่มมา ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าเล่าเรียนลูก ค่าแรงลูกน้องพม่า โทรหาเพื่อน มึงก็ออกไปก่อน ค่าเช่าที่กูก็จ่ายไปแล้ว กูรอเงินอยู่ ตายล่ะ ต้องคุยกับภรรยานิมนต์หลวงพ่อเงินวัดยางคลานออกจากคอ นิมนต์เข้าไปห้องพระ อยู่บนโต๊ะหมู่ไปก่อน ส่วนสร้อยทอง ขอนิมนต์ไปโรงจำนำ 5555
รอดไปได้ 1 เดือน
ฝันใกล้จะเป็นความจริงแล้ว ตอนหน้าจะเล่าให้ฟังใหม่ครับ

เครดิต บจ เศรษฐีศรีวรรณ์

อ่านต่อ ค้าขายต้องมีทุน ep3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น