วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2563

ค้าขายต้องมีทุน ep3


ค้าขาย ต้องมีทุน
Ep3

เห็นข่าวแล้ว หดหู่ครับ บ้านนี้เมืองนี้ ในห้างแท้ๆปล้นฆ่ากัน ยังกะบ้านป่าเมืองเถื่อน เงินทองที่ปล้นไป จะมีโอกาสได้ใช้รึ ขอแสดงความเสียใจต่อญาติมิตรของผู้วายชมน์ในเหตุการณ์ครั้งนี้ สงสารเด็กครับ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย จิตใจเหี้ยมโหดมาก กัมมุนาวัตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ทำดีขอให้ได้ดียิ่งๆขึ้นไป ทำร้ายก็ขอให้กรรมนั้นตอบสนองครับ

จากตอนที่แล้ว ผมต้องนิมนต์หลวงพ่อเงินวัดยางคลาน ขึ้นหิ้ง เอาทองไปจำนำ รอดตายไปเดือนนึง ผมก็พาลูกน้องพม่าทำก๊อกๆแก๊กๆไปเรื่อย จนคนงานพม่าเริ่มมองหน้ากัน นกหนูปูนาก็เหี้ยนเตียนจนไม่มีให้จับแล้ว กินอาหารญี่ปุ่นสะสมซองมาม่าไปชิงโชคจนเต็มถุงปุ๋ยแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเงินทุนจะมา

ความจนนี่มันน่ากลัวครับ ภรรยาผมนี่ปกติเป็นคนทำกับข้าวอร่อย พิถีพิถัน น้ำพริกกะปินี่ จะต้องมี ผักทอด ปลาทูทอด ชะอมชุบแป้งทอด ผักสด ต้มจืดถ้วยเล็กๆใว้ให้ซด จนผมกินข้าวนอกบ้านไม่เป็นเย็นมากินข้าวอร่อยแล้วหนังตาปรือๆก็อาบน้ำเข้านอนกรนคร่อกๆ สะสมไขมัน เวลาเพื่อนๆภรรยามาเยี่ยมก็จะแซวๆกันว่าผมอายุจะ 50 แล้วนี่ยังเตะปิ๊บดังอยู่รึเปล่า ภรรยาหน้าแดงๆแล้วจะบอกว่า แบบซานตาคลอสน่ะ ปีนึงมาหน 5555

เวลาจนมาไม่ค่อยจะมีเงิน ฝีมือทำกับข้าวของภรรยาผมก็จะด้อยลงๆ น้ำพริกกะปิ ก็จะเหลือแต่ ผักสด กะไข่เจียวไม่มีชะอม กระซิกๆ(ร้องให้ น้อยใจ)

จนวันนึงเพื่อนที่เป็นผู้รับเหมาติดตั้งเฟอร์แบรนด์ดังยี่ห้อนึงแวะมาเยี่ยม บอกว่า ที่โรงงานกำลังจะโล๊ะเฟอร์ที่ไม่ผ่าน QC ลองไปเอามาขายมั้ยจะออกทุนให้ ทำเลดีอย่างนี้ น่าจะขายได้ ผมโทรหาเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วน เพื่อนบอกอีกไม่กี่วันจะไปฮ่องกง กลับมาก็มีทุนแล้ว ตอนนี้จะทำอะไรก็แล้วแต่ วันรุ่งขึ้นเลยไปโรงงานเฟอร์นิเจอร์กับเพื่อน

โรงงานเขาใหญ่โตมโหฬารมาก ฝ่ายจัดซื้อเขาพาเดินดูสินค้าที่จะประมูล เพื่อนแนะนำให้รู้จักผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ก็คุยกัน พอเห็นว่าผมเป็นผู้รับเหมาเก่าก็คุยกันรู้เรื่อง สรุปว่า ผมเหมาเฟอร์ใหม่ไม่ผ่านQCนี้ได้ในราคาที่ถูกมาก นัดวันขนแล้ว ผมก็มานั่งวางแผนจัดที่จัดทาง ไปติดต่อเต๊นท์ผ้าใบให้เช่ามาก่อน สองสามหลัง พื้นที่เป็นดินก็หาเอาลังกระดาษมาปูๆ พอขนเฟอร์มาเสร็จ ก็จัดเรียงทำความสะอาด ได้ผลครับ ลูกค้าเริ่มจอดลงมาถาม เริ่มซื้อเริ่มส่งของ น้ำพริกกะปิของภรรยาผมเริ่มอร่อยแล้วววว

ผ่านไปอีก2อาทิตย์ คราวนี้ถึงเวลาต้องจ่ายค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้านค่ารถ9ฯ9 ก็พอมีจ่าย แต่ หลวงพ่อเงินวัดยางคลานก็ยังต้องจำวัดอยู่บนหิ้งต่อไป เพราะยังไม่มีเงินไปไถ่สร้อย

ขายเฟอร์ดีเฟอร์ก็เริ่มร่อยหรอ จะไปหาซื้อใหม่โรงนี้ก็ยังไม่ประมูล ระหว่างนี้หุ้นส่วนผมก็กลับจากฮ่องกง มาถึงก็โทรหาผมว่าตอนเช้าจะเข้ามาหาที่โครงการ ด้วยดึกแล้วผมก็เลยไม่ได้คุยอะไรมาก ตอนเช้าผมไปถึงที่โครงการเห็นหุ้นส่วนมาถึงแล้ว นอนอยู่ในรถ ปรากฎว่ามานอนอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว กลิ่นแลกอร์ฮอร์ยังมีอยู่ สงสัยจะขับกลับไม่ใหว

ปลุกเพื่อนตื่นแล้ว หากาแฟให้ดื่มแล้วก็มานั่งคุยกัน
เพื่อนบอกว่า ไม่มีทุนแล้ว จบแล้ว โดนหลอก
ผมตะลึง มึนหัว ตาลายเหมือนจะเป็นลม
"ตั๋วปลอม" เพื่อนบอก
ผมพอจะหายมึนเลยถาม ตั๋วอะไรวะ "ตั๋วแลกเงิน"

ทั้งชีวิต ทำแต่งานเฟอร์นิเจอร์ เรื่องเอกสารการเงิน การธนาคาร นี่ไม่มีอะไรอยู่ในสมองเลย

เพื่อนคุยไปเรื่อยๆผมก็ฟังไปเรื่อยๆ ฟังแบบ งงๆ สุดท้ายก็จับใจความได้ว่า มีคนมาชักชวนเพื่อนให้ซื้อตั๋วแลกเงิน 5 ล้านบาท เอาไปการันตีธนาคาร กู้เงินได้ 100 กว่าล้าน แต่ ต้องเอาไปสวอป สเวิ้ป อะไรนี่แหล่ะที่ต่างประเทศ เพราะกระทรวงการคลังสะกัดกั้น ต้องไปแลกที่ต่างประเทศแล้วถึงโอนเงินสดเข้ามาในไทยได้ ผมไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ ในหัวมันเริ่มกังวล 2 เดือนนี้อยู่ได้เพราะฟรีค่าเช่า เหลืออีกเดือนเดียวก็ต้องเริ่มจ่ายแล้วจะทำยังงัย ชีวิตจะไปต่ออย่างไร

เพื่อนกลับไปแล้ว บอกเลิกหุ้นด้วย แนะนำให้หาคนมาเช่าที่แทน ไม่ต้องคืนเงินให้เขา เงินมัดจำก็ให้ผมเอาไปทำทุน ผมก็พูดไม่ออก
ผมนั่งเหม่อมองลูกน้องพม่าเช็ดเฟอร์ซ่อมเฟอร์ที่เหลืออยู่ ฝนเริ่มตั้งเค้า แป๊บเดียวก็เทลงมา ความโกลาหนก็เกิด ตกก็ไม่ได้ตกดีๆ ลมกระโชกแรงมาก เต๊นโยกเหมือนจะลอยขึ้น ภาพเต๊นท์ลอยไปชนรถที่วิ่งอยู่บนถนนหน้าโครงการผุดขึ้นในสมอง

ผมตะโกนให้ลูกน้องพม่า วิ่งกันไปจับขาเต๊นท์ กว่าฝนจะซา เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำกันทุกคน ทั้งลูกพี่ลูกน้อง รถผมที่จอดอยู่บนลานดินล้อยุบลงไปครึ่งล้อ นี่ถ้าไม่มีท้องรถค้ำใว้ มันคงจมลงไปมิดหลังคาแน่ๆ สันนิษฐานว่า ดินที่เอามาถมน่าจะเป็นดินเหนียวหรือดินโคลน เวลาแห้งๆมันจะแข็งมาก แต่เวลาโดนน้ำมันจะเหลวเป็นน้ำทันที

ให้คนงานพม่าเช็ดเฟอร์นิเจอร์ที่เปียกน้ำ "เช๊ะมะได้หร่อ ถ้าเก่ มาโจ โล ดิง หมก เลี้ยว (เช็ดไม่ได้หรอกเถ้าแก่ มันจมลงดินหมดแล้ว)" ผมบอกชั่งมันก่อน หาอะไรคลุมใว้ หาอาบน้ำอาบท่า พรุ่งนี้ดินแห้งค่อยทำ
ผมต้องหารถมาลากรถผมออกจากโคลน เอาน้ำมาล้างล้อรถแล้วขับรถกลับบ้าน ถึงบ้านอาบน้ำแล้วขึ้นนอนเลย แฟนเรียกกินข้าว บอกทานมาแล้ว ทั้งที่ความจริงกินไม่ลงเลย

ผมเป็นคนนอนใวทุ่มนึงนี่นอนแล้ว ตื่นอีกทีก็ตีสอง ลุกขึ้นมาสวดมนต์ใหว้พระ นั่งสมาธิ อ่านหนังสือแล้วก็นอนต่อ ตื่นอีกทีก็ 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวทานข้าวไปทำงาน มือถือนี่ขอบอก เข้าบ้านปุ๊บปิดเลย ใครจะทวงหนี้รอพรุ่งนี้นะจ๊ะ หมดเวลาแล้ว เปิดทิ้งใว้โดนเจ้าหนี้ด่านี่ผมจะนอนไม่หลับ ปล่อยเจ้าหนี้นอนไม่หลับมั่งแก้แค้น

ผมตื่นตี2 ใหว้พระ "นั่งสมาธิ" ติดใว้ก่อน วันนี้ขอ"นั่งสมาคิด"ก่อน คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป สุดท้ายก็เขียนเป็นแผน ลำดับขั้นตอนว่า จะหาเซ้งที่ให้คนอื่นเช่าต่อ ให้เหลือกำไรเดือนนึงพอได้ค่าใช้จ่าย หรือ แบ่งเป็น ล๊อกๆให้คนอื่นเช่า ส่วนตัวเราก็ขายเฟอร์ไปด้วย ไม่ต้องมีค่าเช่า ได้กำไรค่าเช่าด้วย ได้กำไรจากขายเฟอร์ด้วย ลูกน้องพม่าก็มีงานทำด้วย

สุดท้ายลงตัวว่า จะแบ่งที่เป็นล๊อกๆให้คนอื่นเช่า ทำเลดีที่สุดเอาใว้ขายเฟอร์ แต่ จะต้องลงทุน ทำถนน น้ำไฟ ท่อระบายน้ำ รั้ว คงต้องค่อยคิดค่อยทำไป

พอตอนเช้า ผมไปถึงที่โครงการให้คนงานย้ายเต๊นท์ออก วางผังใหม่ จัดพื้นที่ด้านหน้าที่ตัวเองจะทำร้านเฟอร์นิเจอร์

โทรติดต่อแพล้นท์ปูน วาง ไวน์เมท เทพื้นก่อน กลัวมันยุบอีก กะว่า เทลานทำร้านก่อน แล้วค่อยๆหาเงินเทถนน ทำทางระบายน้ำ แล้วค่อยเดินเรื่องขอน้ำไฟถาวร เพราะตอนนี้ใช้ไฟชั่วคราว ใช้น้ำชั่วคราว ค่าน้ำค่าไฟแพงมากกกกก

ตัดสินใจโทรหาเพื่อนรุ่นพี่ เล่าให้เขาฟัง ได้เงินมาก้อนนึงไม่เยอะ โทรหาเพื่อนอีกหลายคน ก็ให้มาคนละเล็กคนละน้อย พอปั้นมาเป็นก้อนใหญ่ได้พอสมควร

เพื่อนอีกคนยกตู้คอนเทนเนอร์ให้ บอกเอาไปทำ"ออฟฟิศ"
ตู้ใบนี้แหล่ะที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยน จากคนที่ต้องพึ่งพาเงินเพื่อนทำทุน กลายมาเป็นมีเงินลงทุนหลายล้านบาท ในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน ผมมีกิจการใหม่ที่ไม่เคยทำ จากที่บริหารคนเดียวกับลูกน้องพม่า ต้องให้ภรรยามาช่วย ต้องจ้างฝ่ายขาย ฝ่ายบัญชี วิศวกร สถาปนิก มาช่วยงาน งานอะไร ธุรกิจอะไร ที่ทำเงินได้ดี รวดเร็ว จากตู้คอนเทนเนอร์ใบเดียว พลิกชีวิต ใว้จะมาเล่าใหม่ครับ
โดย ควายเตือนคน


อ่านต่อ ค้าขายต้องมีทุน ep4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น